ผลิตเครื่องสำอางแบบไหน ขายง่าย กำไรดี เหมาะกับคนเริ่มสร้างแบรนด์ตัวเอง

เผยแพร่เมื่อ15 October 2025

ใช้ 3 นาที ในการอ่าน

เทคนิคการสร้างแบรนด์

การเริ่ม “สร้างแบรนด์เครื่องสำอาง” ไม่ใช่เรื่องยากในยุคนี้ เพราะมีโรงงาน OEM ที่ช่วยดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่พัฒนาสูตร ออกแบบแพ็กเกจ ไปจนถึงขอ อย. แต่สิ่งที่เจ้าของแบรนด์มือใหม่มักพลาดคือ —
เลือกประเภทสินค้าผิดตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ขายยาก ต้นทุนจม และหมุนเงินไม่ทัน

วันนี้ Charm Cosmet จะพาคุณมาดูว่า “ผลิตเครื่องสำอางแบบไหน” ที่เหมาะกับคนเริ่มต้นมากที่สุด
ขายง่าย กำไรดี และมีโอกาสปั้นแบรนด์ให้ติดตลาดได้ไว!

ปัจจัยสำคัญก่อนเลือกผลิตภัณฑ์

ก่อนเริ่มผลิตเครื่องสำอาง คุณควรถามตัวเองก่อนว่า คุณมีงบประมาณเริ่มต้นเท่าไร เข้าใจตลาดมากน้อยแค่ไหน และสินค้าที่คุณสนใจสามารถทำคอนเทนต์รีวิวได้ง่ายหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อความเร็วในการสร้างยอดขาย

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีงบจำกัด การเริ่มจากสินค้าชิ้นเล็กอย่างลิปสติกหรือแป้งพัฟถือว่าเหมาะสม แต่ถ้าคุณต้องการแบรนด์ที่ดูมีภาพลักษณ์พรีเมียมในระยะยาว กลุ่มสกินแคร์อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า นอกจากนี้ควรคำนึงถึง อายุการเก็บรักษา (Shelf Life) และ ความยืดหยุ่นของสูตร เพื่อให้ต่อยอดได้ในอนาคต

ประเภทเครื่องสำอาง “ขายง่าย – กำไรดี – เหมาะกับมือใหม่”

ลิปสติก — สินค้าคู่ใจที่ขายง่ายที่สุด

ลิปสติกถือเป็นสินค้าระดับเริ่มต้นที่เหมาะมากสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกเพศทุกวัยใช้ได้และมีดีไซน์ให้เลือกมากมาย จุดเด่นคือ ต้นทุนต่อชิ้นไม่สูงแต่กำไรดี สามารถสร้างความแตกต่างได้ด้วยสี เนื้อสัมผัส หรือการออกแบบแท่งลิปที่เป็นเอกลักษณ์

ในเชิงกำไร ลิปสติกสามารถทำกำไรได้เฉลี่ย 50–70% ต่อชิ้น โดยเฉพาะถ้าเน้นตลาดออนไลน์ซึ่งไม่ต้องมีหน้าร้าน ข้อควรระวังคือ ควรเลือกเฉดสีที่เหมาะกับผิวคนไทยและมีคุณภาพของเม็ดสีดี เพราะลูกค้ามักตัดสินใจจากสีที่เห็นทันทีหลังทา

ลิปสติกจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น สร้างแบรนด์ตัวเองอย่างรวดเร็ว เน้นยอดขายไว และอยากทำคอนเทนต์รีวิวง่าย ๆ ในโซเชียลมีเดีย

รายละเอียดสินค้า คลิก

สกินแคร์บำรุงผิวหน้า — ทางเลือกของแบรนด์ที่ต้องการความยั่งยืน

หากคุณอยากสร้างแบรนด์ที่ดู “เชื่อถือได้” และมีโอกาสสร้างฐานลูกค้าซื้อซ้ำในระยะยาว สกินแคร์คือคำตอบ เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ตอบโจทย์ความต้องการดูแลผิวของผู้บริโภคโดยตรง จุดเด่นของการ ผลิตสกินแคร์บำรุงผิวหน้า คือสามารถเลือกสารสกัดเฉพาะทาง เช่น สูตรลดสิว สูตรผิวกระจ่างใส หรือสูตรลดริ้วรอย

ในด้านผลตอบแทน กำไรของกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 40–60% แม้จะไม่สูงเท่าเมคอัพ แต่ข้อดีคือ ลูกค้ามีแนวโน้มซื้อซ้ำสูงมาก หากเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีจากการใช้จริง

ข้อควรระวังคือ สกินแคร์ต้องใช้เวลาสร้างความเชื่อมั่น เนื่องจากลูกค้าจะต้องทดลองใช้ก่อนเห็นผล จึงเหมาะกับเจ้าของแบรนด์ที่มีความเข้าใจเรื่องผิว หรืออยากสร้างภาพลักษณ์แบรนด์สายบำรุงผิวอย่างจริงจัง สร้างแบรนด์ครีม

รายละเอียดสินค้า คลิก

แป้งพัฟและคุชชั่น — สินค้าทำยอดซ้ำง่ายและมีกำไรสูง

เครื่องสำอางกลุ่มผิวหน้า เช่น แป้งพัฟหรือคุชชั่น เป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องใช้ทุกวัน ทำให้มีโอกาส “ยอดซ้ำ” หรือการกลับมาซื้อซ้ำสูง จุดเด่นคือสามารถสร้างความโดดเด่นได้ด้วยเนื้อแป้งที่ละเอียด ปกปิดดี และแพ็กเกจหรูหรา

กำไรเฉลี่ยของแป้งพัฟอยู่ในช่วง 50–80% ต่อชิ้น จึงถือเป็นสินค้าทำกำไรดีอันดับต้น ๆ แต่ควรระวังเรื่องเฉดสีและโทนผิว เพราะถ้าไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายอาจทำให้ขายยาก

แป้งพัฟและคุชชั่นจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์แนวความงามแบบมืออาชีพ เน้นภาพลักษณ์เรียบหรูและความน่าเชื่อถือ

ผลิตแป้งพัพ แป้งรองพื้น

รายละเอียดสินค้า คลิก

สครับผิวหรือครีมอาบน้ำบำรุงผิว — ตลาดแมสที่ทำยอดขายได้ไว

สินค้ากลุ่มบอดี้แคร์อย่างสครับผิวหรือครีมอาบน้ำบำรุงผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย และมีความต้องการสูงในตลาด โดยเฉพาะสูตรฟื้นฟูผิวกระจ่างใส ซึ่งเป็นเทรนด์ยอดนิยมในไทย

ต้นทุนการผลิตไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสกินแคร์ จึงสามารถตั้งราคาขายที่มีกำไรเฉลี่ย 40–60% ได้ไม่ยาก จุดเด่นอีกอย่างคือสามารถทำคอนเทนต์รีวิวได้ง่าย เพราะเห็นผลลัพธ์หลังใช้ได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของสารสกัด เนื่องจากผลิตภัณฑ์ถูกใช้ทั่วร่างกาย เหมาะกับเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการเริ่มต้นในตลาดแมสที่ทำยอดไวและเข้าถึงกลุ่มลูกค้ากว้าง

ผลิตสครับผิว

รายละเอียดสินค้า คลิก

น้ำหอม — ต้นทุนไม่สูง แต่สร้างภาพลักษณ์พรีเมียมได้

น้ำหอมเป็นสินค้าที่ขายได้ตลอดทั้งปี และมีความยืดหยุ่นในการทำตลาดมาก เพราะสามารถออกแบบ “กลิ่นซิกเนเจอร์เฉพาะแบรนด์” ได้ จุดเด่นของสินค้าประเภทนี้คือ ต้นทุนไม่สูงแต่สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ได้ดีมาก เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการความหรูหราในราคาจับต้องได้

โดยทั่วไปน้ำหอมสามารถทำกำไรเฉลี่ย 60–80% ต่อชิ้น ทั้งยังต่อยอดได้หลายช่องทาง เช่น ของพรีเมียม ของที่ระลึก หรือของขวัญแบรนด์

แต่ควรระวังการเลือกกลิ่นให้เหมาะกับตลาดเป้าหมาย เช่น กลิ่นหวานสดใสสำหรับวัยรุ่น หรือกลิ่นหรูหราสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ เพราะ “กลิ่น” คือสิ่งที่ลูกค้าจำแบรนด์ได้ชัดที่สุด

สร้างแบรนด์น้ำหอม

รายละเอียดสินค้า คลิก

เช็คลิสต์ตัดสินใจก่อนเริ่ม “ผลิตเครื่องสำอางแบรนด์ตัวเอง”

  1. ถ้ามีงบเริ่มต้นไม่สูง ลองเริ่มจากลิปสติกหรือสครับผิวก่อน

  2. ถ้าอยากสร้างแบรนด์ระยะยาวที่มีความน่าเชื่อถือ ควรเลือกสกินแคร์บำรุงผิวหน้า

  3. ถ้าต้องการยอดขายเร็วและทำคอนเทนต์ได้ง่าย ลิปสติกและแป้งพัฟคือทางเลือกที่เหมาะ

  4. ถ้าชอบแนวสินค้าหรูหราที่ต้นทุนต่ำ น้ำหอมจะตอบโจทย์ที่สุด

Charm Cosmet — โรงงานผลิตเครื่องสำอางครบวงจร

Charm Cosmet พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์สำหรับผู้ที่อยาก “สร้างแบรนด์ตัวเอง” โดยให้บริการครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพัฒนาสูตร การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การผลิต ไปจนถึงการวางแผนการตลาดออนไลน์

ทีมวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและฝ่ายการตลาดของ Charm Cosmet จะช่วยแนะนำให้คุณเลือกประเภทสินค้าที่เหมาะกับงบประมาณและเป้าหมายทางธุรกิจ เพื่อให้แบรนด์ของคุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจและเติบโตได้จริงในตลาด สนใจสร้างแบรนด์ติดต่อชาร์มคอสเมทได้เลยค่ะ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ นโยบายความเป็นส่วนตัวนโยบายการใช้คุกกี้