อยาก “สร้างแบรนด์ตัวเอง” ด้วยลิปสติกที่โดดเด่นและแตกต่าง?
หนึ่งในจุดเริ่มต้นสำคัญคือการเลือก “สูตรลิปสติก” ที่เหมาะกับคาแรกเตอร์ของแบรนด์และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งโรงงาน ชาร์ม คอสเมท (Charm Cosmet) มีบริการ ผลิตลิปสติกแบบครบวงจร (OEM/ODM) ที่สามารถปรับสูตร สี กลิ่น และเนื้อสัมผัสให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณได้อย่างมืออาชีพ
มาดู 5 ไอเดียลิปสติกยอดนิยม ที่แบรนด์หน้าใหม่สามารถนำไปต่อยอดได้ทันที!
คำแนะนำเบื้องต้นก่อนอ่าน
เมื่อคิดจะ ผลิตลิปสติก เพื่อ สร้างแบรนด์ตัวเอง ให้ชัด: กำหนดคาแรกเตอร์แบรนด์ (ลักชัวรี่ / มินิมอล / สายเกาหลี / วัยทำงาน) แล้วเลือกเนื้อที่ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมาย — ด้านล่างคือรายละเอียดของ 5 แบบยอดนิยม

รายละเอียดสินค้า คลิก
1) ลิปออยล์ (Lip Oil) — บำรุงริมฝีปากให้เงางามสุขภาพดี
เหมาะกับแบรนด์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ และรักผิวปากสุขภาพดี
ลิปออยล์ (Lip Oil) คือผลิตภัณฑ์ที่ผสมระหว่างลิปกลอสและลิปบำรุงริมฝีปาก เนื้อสัมผัสบางเบาแต่ให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะกับคนที่ต้องการริมฝีปากเงางามแบบสุขภาพดี และเน้นความเรียบหรู ใช้ได้ทุกวัน เหมาะกับตลาดลิปบำรุงแนว clean beauty หรือแบรนด์ที่เน้นความอ่อนโยน ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีรุนแรง
จุดเด่นของลิปออยล์
-
ให้ความชุ่มชื้นล้ำลึกยาวนานกว่าลิปกลอสทั่วไป
-
ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ให้ความเงาแบบ “เปล่งประกายสุขภาพดี”
-
สามารถผสมสีอ่อน ๆ ให้ปากดูอมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ
-
เหมาะสำหรับการพัฒนาเป็น “ลิปออยล์บำรุงก่อนนอน” หรือ “เดย์ลิปออยล์”
ส่วนผสมแนะนำ
-
น้ำมันโจโจ้บา (Jojoba Oil) : เพิ่มความชุ่มชื้นและลดการลอก
-
วิตามินอี (Vitamin E) : ต้านอนุมูลอิสระและช่วยให้ริมฝีปากนุ่ม
-
น้ำมันโรสฮิป (Rosehip Oil) : ช่วยฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งแตก
-
Shea Butter / Avocado Oil : เพิ่มความอิ่มฟูและเรียบเนียน
ข้อดี (Pros)
-
ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
-
เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะริมฝีปากแห้ง
-
ปรับสูตรได้หลากหลาย ทั้งแบบใส / มีสี / มีกลิ่นหอมธรรมชาติ
ข้อเสีย (Cons)
-
สีอาจไม่ติดทนนานเหมือนลิปแมตต์หรือทินท์
-
ต้องทาซ้ำระหว่างวันหากต้องการความเงาตลอดเวลา
กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะ
-
ผู้หญิงที่ชอบลุคธรรมชาติ ไม่แต่งหน้าเยอะ
-
คนที่มีริมฝีปากแห้งแตกง่าย ต้องการการบำรุงระยะยาว
-
แบรนด์แนวธรรมชาติ (Natural / Organic Beauty)
-
กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่ชอบความเรียบหรูแต่ดูสุขภาพดี

รายละเอียดสินค้า คลิก
2)ลิปสติกเนื้อแมตต์ (Matte Lipstick) — สีชัด ติดทน ดูหรูอย่างมืออาชีพ
เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการภาพลักษณ์พรีเมียม และลุคคมชัดแบบมืออาชีพ
ลิปสติกเนื้อแมตต์ เป็นสูตรยอดนิยมสำหรับการ “ผลิตลิปสติก” เพราะให้สีชัด ติดทนนาน และสื่อถึงความหรูหรามีระดับ เหมาะกับแบรนด์ที่อยากเจาะกลุ่มคนทำงานหรือสายแฟชั่นที่ต้องการลุคเป๊ะทั้งวัน
จุดเด่นของลิปแมตต์
-
เม็ดสีแน่น สีชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทา
-
ติดทนนาน ไม่หลุดง่ายแม้หลังรับประทานอาหาร
-
ให้ฟินิชลุคเรียบหรู ดูมืออาชีพ
-
สามารถพัฒนาได้หลายโทนสี เช่น โทนนู้ด พีช หรือแดงกำมะหยี่
ส่วนผสมแนะนำ
-
Hyaluronic Acid ให้ความชุ่มชิ้นอย่างล้ำลึก
-
วิตามินอี (Vitamin E) : เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการแห้งตึง
-
เชียร์บัตเตอร์ (Shea Butter) : เพิ่มความนุ่มของเนื้อสัมผัส
-
ซิลิโคนขนาดนาโน (Nano Silicone) : ทำให้เกลี่ยง่าย ไม่ตกร่อง
ข้อดี (Pros)
-
สีแน่นชัด ดูคมทุกเฉด
-
ติดทนนาน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเติมลิปบ่อย
-
ให้ภาพลักษณ์พรีเมียมเหมาะกับการสร้างแบรนด์ระดับโปร
ข้อเสีย (Cons)
-
หากสูตรไม่มีมอยส์เจอร์ อาจทำให้ริมฝีปากแห้ง
-
ไม่เหมาะกับผู้ที่ริมฝีปากแห้งลอกง่าย
กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะ
-
กลุ่มวัยทำงาน / พนักงานออฟฟิศ / ผู้หญิงสายแฟชั่น
-
แบรนด์ที่เน้น “ความหรู” หรือ “ความมั่นใจในลุคมืออาชีพ”
-
ผู้ที่ต้องการลิปสติกติดทนไม่ต้องเติมบ่อย

รายละเอียดสินค้า คลิก
3) ลิปจิ้มจุ่มเนื้อลิควิด (Liquid Matte Lipstick) — เบาแต่แน่น ติดทนขั้นสุด
เหมาะกับแบรนด์ที่อยากโดดเด่นในตลาดลิปติดทน ลุคสายเกา สายฝอ ได้หมด
ลิปจิ้มจุ่มเนื้อลิควิด เป็นสูตรที่รวมข้อดีของลิปแมตต์และกลอสไว้ในแท่งเดียว เนื้อเหลว เกลี่ยง่าย แห้งเร็ว และเมื่อเซตตัวจะกลายเป็นเนื้อแมตต์ที่ติดทนยาวนาน เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเจาะตลาดวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่ชอบลิปติดแน่นไม่หลุดแม้ระหว่างวัน
จุดเด่นของลิปจิ้มจุ่ม
-
เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ
-
แห้งเร็วและติดทนนานกว่าเนื้อแท่งทั่วไป
-
พกพาสะดวก มีหัวแปรงจิ้มจุ่มใช้งานง่าย
-
ให้ฟินิชแมตต์แนบสนิทแต่เบาสบายริมฝีปาก
ส่วนผสมแนะนำ
-
Film Former Polymer : ช่วยสร้างฟิล์มบาง ๆ เคลือบสีให้ติดทน
-
Chamomile Extract ลดการระคายเคืองริมฝีปากอย่างอ่อนโยน ลดอาการปากลอก ดำ คล้ำ เสีย
-
วิตามินอี (Vitamin E) : ป้องกันริมฝีปากแห้งแตก
-
น้ำมันสกัดธรรมชาติ (เช่น Jojoba, Argan Oil) : ช่วยให้ลื่นและไม่หนักริมฝีปาก
ข้อดี (Pros)
-
ติดทนระดับสูง เหมาะกับการใช้งานระหว่างวัน
-
ให้ลุคแมตต์เนียนแบบมืออาชีพ
-
ใช้ได้ทั้งแต่งหน้าเบาและจัดเต็ม
ข้อเสีย (Cons)
-
ต้องรอแห้งก่อนเม้มปาก ไม่เช่นนั้นอาจเป็นคราบ
-
หากสูตรไม่บาลานซ์ อาจทำให้ปากตึงเล็กน้อย
กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะ
-
วัยรุ่นและวัยทำงานที่ชอบลิปติดแน่นตลอดวัน
-
อินฟลูเอนเซอร์ / กลุ่มสาวสายเกาหลีหรือสายฝอ
-
แบรนด์ที่ต้องการเจาะตลาดลิปแมตต์รุ่นใหม่ หรูแต่เข้าถึงง่าย

รายละเอียดสินค้า คลิก
4) ลิปเปลี่ยนสี (Color Changing Lip Balm) — เปลี่ยนเฉดตามค่า pH ผิว
เหมาะกับแบรนด์ที่อยากมี “จุดขายเฉพาะตัว” สร้างความว้าวให้ผู้ใช้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลอง
ลิปเปลี่ยนสี เป็นสูตรบำรุงริมฝีปากที่สามารถปรับเฉดสีตามค่า pH ของผิวผู้ใช้
จึงให้สีที่แตกต่างกันในแต่ละคน เหมาะกับการ “สร้างแบรนด์ตัวเอง” ที่เน้นความยูนีคและเทคโนโลยีความงามเฉพาะ
จุดเด่นของลิปเปลี่ยนสี
-
สีจะเปลี่ยนตามค่า pH ของริมฝีปากแต่ละคน
-
ให้ลุคธรรมชาติแต่ดูสดใส
-
มีส่วนผสมบำรุงมากกว่าลิปทั่วไป
-
สร้างจุดขายได้ดี เหมาะกับแคมเปญ “Your Shade, Your Style”
ส่วนผสมแนะนำ
-
Thermochromic / pH-Sensitive Pigments : ตัวเปลี่ยนสีตามค่า pH หรืออุณหภูมิ
-
Shea Butter / Beeswax : ให้ความชุ่มชื้นและคงรูป
-
Vitamin E / Argan Oil : เพิ่มการบำรุงและลดความแห้ง
-
Honey Extract / ป้องกันริมฝีปากจากความหมองคล้ำและความเสียหายจากแสงแดด
ข้อดี (Pros)
-
เป็นลิปบำรุงที่มีลูกเล่น ช่วยเพิ่ม Engagement ในตลาด
-
ทาได้ทุกวันโดยไม่ต้องแต่งหน้าเต็ม
-
สีออกโทนธรรมชาติ เหมาะกับทุกสีผิว
ข้อเสีย (Cons)
-
เฉดสีอาจแตกต่างกันในแต่ละคน (ควรทำเทสต์ก่อนขายจริง)
-
ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลิปสีชัดเจนแน่น
กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะ
-
วัยรุ่นและสาววัยทำงานที่ต้องการลุคธรรมชาติ
-
กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการลิป “2-in-1” (บำรุง + เปลี่ยนสี)
-
แบรนด์ที่อยากสร้างผลิตภัณฑ์แนวเทคโนโลยีความงาม

รายละเอียดสินค้า คลิก
5) ลิปกลอส (Lip Gloss) — เติมประกายแวววาว ดูอิ่มน้ำทันที
เหมาะกับแบรนด์ที่อยากสร้างลุคสดใส สไตล์เกาหลี หรือแนวลิปบำรุงผสมความงาม
ลิปกลอส คือสูตรที่เน้นความเงางามและความชุ่มชื้น ช่วยให้ริมฝีปากดูอิ่มน้ำสุขภาพดี
เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการ “ผลิตลิปสติก” สไตล์บิวตี้สายหวาน หรืออยากเพิ่มสินค้าประเภทลิปท็อปโค้ทในไลน์เครื่องสำอางของตัวเอง
จุดเด่นของลิปกลอส
-
ให้ลุคฉ่ำวาวเหมือนริมฝีปากสุขภาพดี
-
ใช้ทาเดี่ยว ๆ หรือทาทับลิปเนื้อแมตต์ได้
-
เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะ
-
เหมาะกับการออกคอลเลกชันตามเทรนด์แฟชั่น
ส่วนผสมแนะนำ
-
Coconut Oil : ช่วยให้ริมฝีปากนุ่มและเงาเป็นธรรมชาติ
-
Hyaluronic Acid : ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก
-
วิตามินอี (Vitamin E) : ช่วยบำรุงริมฝีปากและลดความแห้ง
-
Cherry Seed Oil : เพิ่มความอิ่มฟู (Natural Plumping Look)
ข้อดี (Pros)
-
ให้ลุคเงาสวยสุขภาพดี
-
ใช้งานง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
-
เพิ่มยอดขายเสริมในแบรนด์ได้ดี (สินค้าขนาดเล็ก ทาซ้ำบ่อย)
ข้อเสีย (Cons)
-
ติดทนน้อยกว่าลิปเนื้อแมตต์
-
บางสูตรอาจเหนียวถ้าไม่บาลานซ์ดี
กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะ
-
วัยรุ่น นักศึกษา ผู้เริ่มแต่งหน้า
-
แบรนด์ที่เน้น “ความสดใส” หรือ “ความชุ่มชื้น”
-
ผู้ที่ชอบลุคฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี
แนะนำสำหรับการพัฒนาสูตร (สำหรับคนสร้างแบรนด์ตัวเองที่ต้องการผลิตลิปสติกไม่เหมือนใครจริงๆ)
-
ทดสอบสูตร (Stability & Compatibility): ทุกสูตรต้องผ่าน stability test (อุณหภูมิสูง/ต่ำ), migration test และ skin irritation test ก่อนขึ้นไลน์ผลิต
-
มาตรฐานความปลอดภัย: หากจะส่งขายตลาดไทย ควรเตรียมเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียนเครื่องสำอาง (อย.) — ชาร์ม คอสเมทให้คำปรึกษาเรื่องนี้ได้
-
Batch Size & MOQ: เลือก batch size ที่เหมาะกับแผนการขายและการตลาด — ถ้าสร้างแบรนด์ใหม่ แนะนำเริ่มด้วยสีหลัก 3–6 เฉดก่อนขยาย
-
Brand Story & Shelf Life: ระบุจุดขายชัด เช่น “Ultra-hydrating cream” หรือ “Vegan certified” พร้อมการสื่อสาร shelf-life (เช่น 24 เดือน unopened / 12 เดือน after opening)
-
การทดสอบผู้บริโภค (Consumer Test): จัดกลุ่มทดลองและสอบถาม feedback เรื่องสีกับความรู้สึกในการใช้ก่อนผลิตจริง

การ ผลิตลิปสติก สำเร็จรูปเพื่อ สร้างแบรนด์ตัวเอง ต้องเลือกเนื้อสูตรให้ตรงกับภาพลักษณ์แบรนด์และพฤติกรรมผู้ซื้อ —ทาง ชาร์ม คอสเมท สามารถช่วยตั้งแต่พัฒนาสูตร ทดสอบความปลอดภัย จนถึงการผลิตจริงและช่วยขึ้นทะเบียน เพื่อให้แบรนด์คุณเริ่มขายได้อย่างมั่นใจ
